วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

โจรสลัดหมวกฟาง







สัญลักษณ์




  

       โกอิ้งเเมร์รี่ ( Going Merry )

เป็นเรือลำแรกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ได้รับมาจาก คายะ จากหมู่บ้าน ชีล็อป (Syrup) (หมู่บ้านของอุซป)







                                                               เธาซันด์ ซันนี่ (Thousand Sunny) 

       เรือลำที่สอง ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง สร้างมาจากแบบแปลนเรือของ แฟรงกี้ ที่เกาะ วอเตอร์ เซเว่น (Water7) ตัวเรือทำมาจาก อดัม ต้นไม้ในตำนานเหมือนกับเรือ ออโร่ แจ็กสัน ของเจ้าแห่งโจรสลัด โกล ดี โรเจอร์





                                                                                         สมาชิก



                                                                     Monkey  D  Luffy

           ในวัยเด็กลูฟี่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านฟูชา ต่อมาเมื่อมีกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาในหมู่บ้าน ลูฟี่จึงได้พบกับกลุ่มโจรสลัดที่มีชื่อว่า กลุ่มโจรสลัดผมแดง ลูฟี่เป็นเพื่อนกับเหล่าบรรดาโจรสลัดกลุ่มผมแดง และอีกทั้งยังอยากจะขอเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดผมแดงอีกด้วย แต่ แชงคูส หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดผมแดงไม่ต้องการให้ลูฟี่เข้าร่วม

ช่วงระหว่างนี้เองลูฟี่ได้กินผลปีศาจ ที่ชื่อว่าผลโกมุโกมุ เข้าไป ทำให้ร่างกายมีลักษณะพิเศษคือ มีคุณสมบัติเป็นยาง และจะว่ายน้ำไม่ได้ไปตลอดชีวิต ต่อมามีกลุ่มโจรภูเขาได้เข้ามาในหมู่บ้านและได้ไปมีเรื่องกับ กลุ่มโจรสลัดผมแดง แต่ว่า พวกแชงคูสไม่ตอบโต้คืน ซึ่งทำให้ลูฟี่ไม่พอใจมาก หลังจากนั้นลูฟี่จึงไปแก้แค้นให้พวกแชงคูส แต่ว่าถูกกลุ่มโจรภูเขาจับตัวไป พวกแชงคูสจึงเข้าไปช่วย กลุ่มโจรภูเขาไม่สามารถสู้ได้ จึงจับตัวลูฟี่ไปเป็นตัวประกันเพื่อหนีออกทางทะเล แชงคูสได้ตามไปช่วยลูฟี่ออกมาได้แต่ตัวแชงคูสนั้นถูกสัตว์ร้ายในทะเลกัดแขนขาดไปข้างหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มโจรสลัดผมแดง ก็ได้เดินทางไปที่อื่นต่อและแชงคูสได้มอบหมวกฟางที่เขาใส่อยู่เป็นประจำให้ลูฟี่ และลูฟี่ก็ได้สัญญากับแชงคูสว่าจะก้าวข้ามแชงคูสไปอีกและจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด
 ต่อมาลูฟี่ได้อาศัยพลังของผลปีศาจนี้ฝึกฝนวิชาเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น เมื่อลูฟี่เติบโตเป็นหนุ่มได้ต่อสู้กับสัตว์ร้ายในทะเลและได้ออกเดินทางแล้วหลังจากที่จะเดินทางลูฟี่ก็ได้พบกับโซโลเป็นคนแรก นามิเป็นคนที่สอง อุซบคนที่สาม ซันจิคนที่สี่ ช๊อปเปอร์คนที่ห้า โรบินคนที่หก แฟรงกี้คนที่เจ็ด บรู๊คคนที่แปด และอาจจะมีการเพิ่มจำนวนอีก การที่ทุกคนจะออกผจญภัยก็เพราะพวกกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางทุกคนต่างก็มีความฝันของตนเอง เพื่อหาทางเข้าสู่ แกรนด์ไลน์ สถานที่ที่เชื่อกันว่ามีวันพีซซ่อนอยู่ และแล้วก็พร้อมออกผจญภัยโดยศึกแรกที่หนักที่สุดในทะเลอีสท์บลูก็คือการเอาชนะโจรสลัดเงือกปลาที่ชื่อว่าอารอน ซึ่งก็สามารถเอาชนะมาได้แล้วค่าหัวก็พุ่งสูงถึง 30ล้านเบรี เมื่อเข้าแกรนไลน์ก็ต้องช่วยนาเฟลตาลี วีวี้ เพื่อเอาอาณาจักรอาลาบาสต้าคืนมาซึ่งก็เป็นบ้านเกิดของวีวี้ซึ่งถูกยึดการปกครองโดยคร็อกโคไดส์ แล้วเมื่อปะทะเข้าจริงๆลูฟี่ถึงกับแพ้ไปถึง2ครั้งรวดซึ่งไม่สามารถต่อกรกับผลทรายได้เลยแต่ภายหลังลูฟี่ก็สามารถชนะได้แล้วค่าหัวของลูฟี่ก้เพิ่มขึ้นเป็น100ล้านเบรีหลังจากจบศึกที่อาลาบาสต้าก็ไปลุยที่เกาะแห่งท้องฟ้าที่เป็นเหมือนโลกแห่งความฝันที่ไม่เป็นจริงแต่ก็ทำให้มันเป็นจริงในขณะนั้นเอง เกาะแห่งท้องฟ้าก็เกิดศึกระหว่างแชนเดียร์กับกองทัพเทพแล้วลูฟี่ก็ต้องปะทะกับ ก๊อด เอเนล ผู้ซึ่งมีพลังของผลปิศาจสายธรรมชาติก็คือผลโกโรโกโรเป็นผลสายฟ้า ซึ่งคนของเกาะบนท้องฟ้าไม่สามารถที่จะต่อกรได้เลยแต่ก็สามารถฝ่าฟันมาได้ แล้วก็ได้สิ่งตอบแทนมาคือ ทองคำที่ภายหลังสามารถนำมาขายได้ถึง300ล้านเบรี และเมื่อลงมาพวกลุฟี่ก็ต้องมาปะทะกับกลุ่มของรัฐบาลโลกซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า CP9 เป็นหน่วยงานลับของรัฐบาลโลกที่แข็งแกร่งที่สุดไม่มีใครที่สามารถต่อกรได้ แล้วมีเสนาธิการที่ชื่อสแปนดัมและลุจจิเป็นหัวหน้ากลุ่ม cp9 และเป็นชายที่มีพลังโดริคิถึง4000 แต่ลูฟี่ก็สามารถเอาชนะมาได้อย่างทุลักทุเลแล้วค่าหัวล่าสุดก็คือ 300ล้านเบรีและได้เรือลำใหม่แทนโกอิ้งแมรี่ที่วิ่งต่อไปไม่ไหวแล้วได้เรือลำใหม่มีชื่อว่า เธาซันซันนี่ และถัดจากนั้นลูฟี่และเพีอนๆได้ต่อสู้กับ เก็กโค โมเลีย ซึ้งเป็น 1 ใน 7 เทพโจรสลัด เป็นชายผู้ที่กินผลเงา (ผลปีศาจ คาเกะ คาเกะ) เข้าไปจึงมีความสามารถขโมยเงา หรือดึงเงาของคนอื่นของผู้อื่นให้ออกจากร่างได้(คือเมื่อได้ขโมยเงามาแล้าจะมีความสามารถเหมือนเจ้าของเงาแต่เจ้าของเงาเดิมจะเสียเงาและร่างกายจะสลายเมื่อโดนแสงอาทิตย์เพราะไม่มีเงา) ที่เกาะผีซึ่งที่จริงเป็นเรือขนาดยักษ์ชื่อธริลเลอร์บาร์ค







                                                                Roronoa Zoro

โซโลเป็นนักล่าค่าหัวผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบเป็นอาวุธ โดยมีดาบ 3 เล่มเป็น อาวุธประจำตัว มีความใฝ่ฝันเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ตามที่ให้สัญญาไว้กับ คุอินะ เพื่อนสมัยเด็กที่เสียไป หลังจากนั้นถูกนาวาโทมอร์แกนมือขวานจับตัวไปและเจอกับลูฟี่ ลูฟี่เข้ามาช่วยโซโลไว้ และโซโลยังร่วมเดินทางไปกับลูฟี่ด้วย และโซโลเองมีค่าหัว 60 ล้านเบรี หลังจากที่จัดการดาซูบอเนส หรือมิสเตอร์วัน แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านเบรี หลังจากจัดการคาคุซึ่งเป็นหนึ่งใน CP9 ดาบประจำตัวที่โซโลพกไว้เสมอตั้งแต่แรกคือ ดาบสีขาว วาโดอิจิ มอนยิ (เป็นดาบที่จะคาบไว้ที่ปากเวลาใช้ท่าสามดาบ)ซึ่งเป็นดาบที่รับช่วงมาจากเพื่อนสมัยเด็กและสาบานว่าจะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ดาบอื่นที่ใช้ในปัจจุบันอีกสองเล่มคือดาบสีแดง ซังได คิเทซึ เป็นดาบอาถรรพ์ที่ได้มาจากล็อกทาวน์ และ ดาบดำ ชูซุย ซึ้งได้มาจากการสู้กับซามุไรเจเนรัลซอมบี้ ริวมะ(ว่ากันว่าเป็นตัวเอกจากนิยายของอ.โอดะ แต่ในเรื่องดันป่วยตายซะได้ เลยเป็นแขกรับเชิญในร่างซอมบี้ซะอย่างงั้น) ที่ธริลเลอร์บาร์ค จึงทำให้บรู๊ค (สมาชิกเรือthousand sunnyคนล่าสุด)ได้เงาของเขากลับคืนมา โซโลเป็นคนจริงจัง ขี้เซา หลงทางบ่อย ปากไม่ค่อยดีมักจะเถียงกับซันจิเป็นประจำจนได้ฉายาส่วนตัวว่าเจ้าหัวสนามหญ้า แต่ถึงภายนอกจะไม่แสดงออกเท่าไหร่ โซโลก็เป็นคนที่รักเพื่อนฝูงอย่างมาก โซโลโดยปกติจะสู้ จะใช้เพลงดาบสามเล่ม ดาบสีขาว วาโดอิจิ มอนจิ เป็นดาบที่มีไว้ติดตัวเป็นของเพื่อนรักที่เสียชีวิตไป ปกติจะคาบเล่มนี้ไว้ที่ปากถ้าใช้ครบ 3 เล่ม ดาบสีแดง ซังได คิเทซึ ดาบอาถรรพ์ใครถือดาบนี้ มีอันเป็นไปเป็นดาบที่เลือกผู้ใช้ โซโลทดสอบโดยการโยนขึ้นและปล่อยให้ดาบหมุนลงมาหาแขน ปรากฏว่าไม่เป็นไร ลุงเจ้าของร้านดาบในเมือง ล็อกทาวน์ ของร้านจึงยกให้ จะใช้มือซ้ายถือดาบเล่มนี้
ดาบสีเทา ยูบาชิ เจาของร้านดาบ ถูกใจในการทดสอบของโซโลจึงให้ดาบเล่มนี้มาอีก(พังไปจากการต่อสู้)
ดาบ เมอิโทะ โชอุซุย ได้มาจาก ซอมบี้ซามูไรในตำนาน ริวมะ (คาดว่าเป็นตัวละครอีกเรื่องของที่ผู้เขียนนำมาใส่)และสู้ชนะถึงได้มา



 


                                                                                   Nami

           เธอเป็นต้นหน ของเรือ และเป็นคนที่ 3 ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง นามิเป็นคนแรกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ที่โผล่มาใน อนิเมะ ในหนังสือ เธอเป็นคนที่ 3 ที่ยอมร่วมกลุ่มจริงๆ ก็เป็นคนที่5 เธออาจจะเป็นต้นหนที่ ดีที่สุดในแกรนด์ไลน์ และเธอก็เป็น นักล่าสมบัติ อีกด้วย เธอเป็นต้นหนที่ดีมากสามารถ บ่งบอกความแตกต่างของอากาศ ได้ ทำให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง หลุดพ้นจากอากาศ แสนวุ่นวาย ของแกรนด์ไลน์ มี อยู่ 2 อย่างที่เธอชอบที่สุดนั่นคือ เงิน และ “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง เพราะเธอรัก เบลล์เมียร์ ซึ่งคือแม่เลี้ยงของเธอ ความฝันของนามิ คือการได้วาด แผนที่โลก ที่สมบูรณ์แบบ ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่สำเร็จสำหรับทุกคนเป็นเพราะทะเ ล ที่ห้าวหาญของแกรนด์ไลน์ แผนที่แรกที่นามิวาดคือแผนที่ของเกาะที่หมู่บ้านโคโค ยาชิอยู่ นามิ มีรอยสักที่แขนด้านซ้ายของเธอ ซึ่งหมายถึง “Mikan” (ส้มชนิดหนึ่ง) และ เกวียน (อดีตของเธอ) ซึ่งตอนแรก จะเป็นรอยสักที่บ่งบอก ว่าเป็นพวกของกลุ่มโจรสลัดอารอน นามิ มีความสูง 169cm สัดส่วน 36-22-36 อาจารย์โอดะ เคยบอกว่า นามิ ถูกเปรียบเทียบ เหมือนกับแมว และ สีที่บ่งบอกเกี่ยวกับเธอคือสีส้ม และมีกลื่นตัวเหมือน “Mikan” (ส้มชนิดหนึ่ง) และ เงิน อาจารย์โอดะก็บอกด้วยว่า สิ่งที่นามิ ชอบกินที่สุดคือส้ม และ ผลไม้ทุกชนิด นา มิเป็น ต้นหนที่เก่งมากและมีความสามารถในการวาดแผนที่ได้สวย มากเช่นกัน และยังสามารถคาดเดาสภาพอากาศและรู้ด้วยว่า ไซโคลนที่อยู่ในแกรนด์ไลน์ เธอจะพูดว่า เธอรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง และความดันในสภาพอากาศเมื่อเธอกำลังคาดเดาสภาพอากาศ นอกจากสิ่งพวกนี้แล้ว เธอยังเป็นนักล้วงกระเป๋าที่ชำนาญมากๆด้วย และสามารถล้วงสิ่งเล็กๆน้อยๆ เช่น กุญแจ เบรี โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว นามิจะ ไม่ชำนาญในด้านการต่อสู้เหมือนทุกคนในกลุ่ม แต่เธอก็ยังสามารถป้องกันตัวได้อย่างเล็กน้อยด้วยกระ บอง ของเธอ และสามารถกำจัด โจรสลัดธรรมดาๆ หรือทหารเรือธรรมดาได้ แม้จะมีปัญหาเล็กๆน้อยๆ เธอสามารถปล่อยพลังโจมตีที่ทั้งเร็วทั้งแรง และเมื่อเธออยู่ที่ อลาบาสตาและหลังจากนั้น เธอใช้ กระบองที่มีความสามรถเปลี่ยนสภาพอากาศ อยู่ข้างในที่อุซปสร้างให้ ตอนแรกๆกระบอง ถูกสร้างมาเพื่อใช้ ในงานปาร์ตี้ แต่เมื่อนำท่าต่างๆมาใช้ร่วมกันแล้ว นามิเปลี่ยนกระบองที่ใช้ในงาน ปาร์ตี้ มาเป็นกระบอง ที่แสนอันตราย แต่หลังจากนั้น กระบองคุริมะ ได้กลายเป็น “กระบองคุริมะ ฉบับสมบูรณ์” ซึ่งกระบองนี้ สามารถ ทำลายกลุ่มทหารเรือได้กลุ่มใหญ่เลย เทคนิค บางอัน คือ “ทันเดอร์บอลท์ เทมโป” (ที่ใช้ คูลบอล กับฮีทบอล ผสมกันให้เป็นเมฆ และส่ง ทันเดอร์บอล ไปบนเมฆทำให้เกิดสายฟ้าฟาดขนาดใหญ่) และ มิราจ
เทมโป (ทำให้อากาศรอบๆตัว ร้อน เธอสามารถ สร้าง ภาพลวงตา ของตัวเธอเอง และเมื่อเป็น กระบองคุริมะแบบสมบูรณ์ แบบเธอสามารถใช้ท่าใหม่ได้นั่นคือ ฟาตา โมลกานา) อย่างใดก็ตาม ท่า มิราจ เทมโป นั้นไม่สมบูรณ์แบบ โดย ภาพลวงตา เหล่านั้นจะรูปทรงไม่เหมือนเธอ ซึ่งคือ ตัวธรรมดา, ตัวที่ผอมและยาว, ตัวที่มีกล้ามเป็นมัดๆ, ตัวที่เตี้ยและอ้วน และ ตัวเด็ก ตัวใดก็ได้ ที่อาจจะเป็นนามิ จะสามารถ ทำให้ศัตรู มึนได้





                                                                                Usopp

       อุซป (เป็นลูกของยาซปที่เป็นมือปืนให้กับกลุ่มโจรสลัดผมแดง) มีความสามารถพิเศษคือการใช้อาวุธเกี่ยวกับการยิงได้แม่นยำ รวมถึง หนังสติ๊ก หรือ ปืนใหญ่ ลักษณะนิสัยเป็นคนโกหก และขี้ขลาด ถึงแม้ว่าอุซปจะมีพละกำลังน้อยกว่าคนอื่นในเรือ อุซปได้เข้าร่วมการต่อสู้ทุกครั้ง โดยหลายๆ ครั้งได้รับบาดเจ็บกลับมา อุซปผู้ที่มีความในการยิงปืน ในการวาดรูป และการผลิตสิ่งของจริงๆหรือแหกตามาก อุซปเป็นคนขี้กลัวแต่ก็ตลกมาก ซึ่งอุซปเป็นคนออกกลอุบาย มากมายในกับพวกลูฟี่ ซึ่งนอกนามิที่ออกกลอุบายแล้วก็มี อุซปนี้แหละที่คิดแผนดีมาก ซึ่งอุซปนั้นจะชอบหัวเราะกับการที่ลูฟี่ เลียนแบบโซโล ซันจิและช็อปเปอร์มาก และอุซปว่างๆจะชอบหลอกล่อช็อปเปอร์ด้วยความสนุกสนาน ปัจจุบันอุซปมีค่าหัว 30 ล้านเบลีซึ้งมีผลมาจากการที่จัดการ cp9 และยิงธงของรัฐบาลโลกลงมาจึงทำให้ได้ฉายาว่า โซเงคิง (ที่จริงก็คืออุซปอะนะ) ตอนนี้กำลังต่อสู้กับออส และ เก็กโค โมเลีย เพื่อชิงเงาของตนกับคืนมา (ไม่งั้นร่างจะสลายเมื่อโดนแสงอาทิตย์) หลังจากอุซปได้แยกตัวออกจากกลุ่ม อุซปได้ปลอมเป็นโซเงคิงเพื่อเข้ามาช่วยเหลือพวกของ มังกี้ ดี ลูฟี่ ในตอนที่จะต้องไปช่วยเหลือ นิโค โรบิน จากพวกCP9 มีฝีมือการยิงปืนพอ ๆ กับ อุซป โดยโกหกว่าโซเงคิงอาศัยอยู่ที่เกาะนักแม่นปืน ถ้าถามเค้าว่าเกาะนักแม่นปืนอยู่ที่ไหน เค้าจะตอบว่าอยู่ในใจของเราไง 30 ล้านเบรี (ในชื่อของโซเงคิง) หลังจากใช้คาบุโตะ (หนังสติ๊กขนาดใหญ่) ยิงกระสุนเพลิง เผาธงสัญลักษณ์ของรัฐบาลโลกที่เอนิเอส ล็อบบี้ต่อหน้าCP9ตามคำสั่งของลูฟี่ และตอนนั้นได้ใช้ชื่อและหน้ากากปกปิดตัวเองว่า โซเงคิง






                                                                                 Sanji

        ซันจิเป็นพ่อครัวมือเอกรองจาก"เชฟ"ในภัตตาคารบาราติเอ โดยทั้งคู่มีความหลังร่วมกัน โดยเมื่อ 9 ปีก่อน เซฟ(ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าโจรสลัดขาแดง ผู้มีวิชาเตะเป็นหนึ่ง) ได้โจมตีเรือเดินทะเลซึ่งซันจิได้ทำงานเป็นพ่อครัวฝึกหัดขณะนั้น ในขณะที่กำลังบุกปล้น ปรากฏว่ามีพายุพัดเข้ามาทำให้ซันจิตกเรือไป โดยเซฟได้กระโดดลงน้ำตามไปช่วยซันจิ ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะรอดจากการจมน้ำมาได้ แต่ทั้งคู่ได้ขึ้นมาติดชะง่อนหินด้วยกันกลางทะเล ไม่มีสัตว์ ไม่มีผัก ไม่มีอาหาร และยังคงเป็นหินที่สูงจากระดับน้ำทะมากเกินกว่าที่จะตกปลามากินได้ โชคยังดีที่เซฟได้หยิบอาหารติดมาสองถุง โดยตกลงว่าจะแบ่งอาหารกันกิน ซันจิได้ถุงเล็กและเซฟได้ถุงใหญ่ไป เซฟยังคงสั่งให้ซันจินั่งอยู่ตรงข้ามของเกาะเพื่อสังเกตเผื่อมีเรือผ่านมา วันคืนผ่านไปหลายวันไม่มีทีท่าว่าจะมีเรือผ่านมา อาหารของซันจิเริ่มร่อยหรอลง เมื่ออาหารของซันจิได้หมดลง ซันจิจึงวางแผนจะฆ่าเซฟแล้วแย่งอาหารมาเมื่อสังเกตเห็นเห็นว่าถุงอาหารของเซฟยังคงเต็มอยู่ ซันจิได้เข้าไปแย่งอาหารแล้วได้รู้ว่าถุงอาหารของเซฟทั้งหมดมีแต่ทรัพย์สมบัติ ไม่มีอาหารเลยซักนิดเดียว ซันจิจึงรู้ไดว่าเซฟได้แบ่งอาหารที่มีทั้งหมดไว้ให้ซันจิคนเดียว มากไปกว่านั้นเมื่อซันจิได้เห็นขาของเซฟแล้วรู้ว่าเซฟตัดขาตัวเองกิน (ในฉบับหนังการ์ตูน เซฟสูญเสียขาตอนที่ช่วยซันจิจากการจมน้ำ) หลังจากนั้นซันจิได้สาบานกับตัวเองว่าจะช่วยเซฟเปิดร้านอาหารบนทะเลแห่งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่ต้องการให้มีผู้คนที่ต้องทนหิวกลางทะเลอีกต่อไป หลายวันต่อมาได้มีเรือผ่านมาและได้ช่วยเหลือทั้งคู่จากความตาย ในภัตตาคารบาราติเอ เซฟและซันจิได้ทะเลาะกันตลอดเวลา โดยเซฟเรียกซันจิว่าเด็กน้อย ขณะที่ซันจิเรียกเซฟว่าไอ้เฒ่า (ในอะนิเมะซันจิเรียกว่าตาแก่ขี้ตืด) เซฟบอกซันจิตลอดเวลาว่าฝึมือทำอาหารของซันจิห่วยไม่เข้าขั้นมาตลอด ถึงแม้ว่าจะทะเลาะกันหนักแค่ไหน ซันจิสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะช่วยเซฟเปิดร้านอาหารตลอดชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่ง ดอนครีกและกลุ่มโจรสลัดปรากฏตัวขึ้นและประกาศจะยึดครองบาราติเอ ซันจิและพ่อครัวคนอื่นได้ต่อสู้ป้องกันบาราติเอ โดยในขณะนั้น ลูฟี จากกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางได้อยู่ที่ภัตตาคารพอดี และได้ช่วยขับไล่ดอนครีกไป ลูฟีชักชวนให้ซันจิขึ้นเรือเป็นพ่อครัวประจำเรือและไปตามหา "ออลบลู" (ซึ่งเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ของซันจิและของเซฟ เป็นชื่อทะเลที่มีปลาอยู่ทุกประเภท) แต่ซันจิตัดสินใจหนักแน่นว่าจะไม่ทิ้งเซฟและบาราติเอไป เซฟเห็นดังนั้นจึงวางแผนกับพ่อครัวทุกคนในบาราติเอให้ทำท่าโกรธซันจิอย่างแรงและแกล้งบอกว่าซุปรสชาติไม่ได้เรื่อง ซันจิโมโหมากที่เห็นว่าทุกคนเทอาหารของเขาทิ้งและหาว่าอาหารไม่อร่อย แต่เมื่อซันจิมารู้แผนของเซฟทีหลังและได้เข้าใจถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงที่อยากให้ซันจิตามความฝันไป ซันจิได้ก้มกราบขอบคุณเซฟและทุกคนด้วยน้ำตา และได้ลงเรือไปกับลูฟีไป

 

 
 
                                                                            Tony Tony Chopper
 
     โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ หรือ ช็อปเปอร์ เป็นอีกตัวละครที่มีความสำคัญในเรื่อง อีกทั้งยังน่ารัก เป็นขวัญใจสาวๆทั้งหลายด้วยความน่ารักของช็อปเปอร์ พวกของลูฟี่ซึ่งตอนนั้นยังมีพรรคพวกแค่ 5 คน คือ ลูฟี่ โซโล ซันจิ อุซป นามิ ซึ่งในตอนนั้นพวกลูฟี่อยู่ในแกรนไลน์ ซึ่งเป็นที่ๆโจรสลัดทุกคนเข้ามาอยู่เพื่อแย่งชิงความเป็นหนึ่ง โดยลูฟี่ต้องการเดินทางไปอาณาจักรอลาบาสต้า เพื่อช่วยองค์หญิงบีบี ซึ่งอาศัยอยู่บนเรือของลูฟี่ด้วย แต่นามิ ซึ่งเป็นต้นหนของเรือมีอะการเป็นไข้อย่างหนัก ทำให้ทุกคนตัดสินใจว่า ต้องการหมอมารักษา จึงแวะที่เกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเกาะนี้ไม่มีหมอเหลือแล้วด้วยฝีมือของโจรสลัดวาโปลู ส่วนหมอทั้งหมดในนามฮิตส์ทเวนตี้ อาศัยอยู่กับโจรสลัดวาโปลูทั้งหมด เมื่อเข้าไปในเกาะลูฟี่ตามหา ดร.คุเรฮะ ซึ่งเป็นหมอจอมโหดคนเดียวของเกาะนี้ ซึ่งที่นี่เอง เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ลูฟี่ได้พบกับช็อปเปอร์ ด้วยความแปลกที่เป็นกวางเรนเดียร์แต่กินผมปีศาจที่เรียกว่าผล มนุษย์เข้าไป ทำให้สามารถแปลงร่างเป็นคนได้ และเมื่อช็อปเปอร์ได้ทำความฝันของ ดร.ฮิสรุค เป็นจริงขึ้นมาได้สำเร็จ คือการทำต้นซากุระยักส์ ได้สำเร็จ ช็อปเปอร์จึงได้ออกมาเดินทางเป็นพรรคพวกของลูฟี่นับจากวันนั้น โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ เป็นกวางเรนเดียร์สุดที่รักของด็อกเตอร์คุเรฮะที่กินผลมนุษย์เข้าไป เป็นหมอประจำเรือสามารถแปลงร่างได้ถึง7ขั้นโดยอาศัยยาที่คิดค้นพิเศษก็คือรับเบิ้ลบอลและท่าไม้ตายใหม่ที่ได้จากการต่อสู้กับcp9ก็คือร่างมอนสเตอร์ที่ต้องกินผลรับเบิ้ลบอลผลที่3ไปนั้นเองและหลังจากที่ชนะคุมาโดริก็ทำให้ค่าหัวของช๊อปเปอร์มีค่าแค่50เบรีเท่านั้นซึ่งก็ให้พวกทหารเรือคิดว่าเป็นแค่สัตว์เลี้ยงทำอะไรไม่ได้
 
 
 

 
 
                                                                            Nico Robin
 
 
           นิโค โรบิน สมาชิกเก่าขององค์กรบารอคเวิร์คผู้เป็นถึงรองประธานภายใต้โค้ดเนม Miss All Sunday ที่มีความฝันในการตามหาประวัติศาสตร์ที่แท้จริงที่ถูกบันทึกผ่าน โพเนกลีฟ อักษรโบราณที่ไม่มีใครอ่านได้นอกจากเธอ เธอคนนี้ถูกรัฐบาลตามล่ามาถึง20ปี นับตั้งแต่เธอมีค่าหัวถึง79ล้านด้วยอายุเพียง8ปี มีโรบินลอบขึ้นเรือหลังจากลูฟี่ช่วยเธอไว้จากการต่อสู้ในอลาบาสตา และได้เข้าเป็นสมาชิกโดยการยินยอมของลูฟี่ ที่กล่าวว่า "แม่นี่ไม่ใช่คนเลว" แม้ว่าสมาชิกคนอื่นๆจะยังเคลือบแคลงอยู่ก็ตาม จนกระทั่งการต่อสู้บนเกาะแห่งท้องฟ้า สกายเปีย จึงทำให้ทุกคนเชื่อใจเธอ แต่อดีตอันลึกลับของโรบินก็ตามมาอีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้พบกับอาโอคิยิ จอมพลแห่งกองทัพที่ต้องการตัวโรบิน และเมื่อพวกเขาหนีรอดและเดินทางมาถึงเกาะวอเตอร์เซเว่น เกาะแห่งช่างต่อเรือ เธอก็หายตัวไป พร้อมปรากฏตัวอีกทีด้วยคำลา และทำตัวเป็นศัตรูกับพวกลูฟี่อีกครั้ง โดยการร่วมมือกับกลุ่ม CP9แห่งรัฐบาลโลก ในการลอบสังหารไอซ์เบิร์ก นายกเทศมนตรีของเมือง เพื่อชิงแบบแปลน "พูลตัน" อาวุธร้ายในตำนานที่สามารถทำลายล้างโลกได้ และป้ายความผิดให้โจรสลัดหมวกฟาง ความจริงของเจตนาปรากฏขึ้นเมื่อไอซ์เบิร์กผู้รอดตายจากการถูกลอบสังหารบอกนามิว่า แท้จริงแล้วโรบินทำไปเพราะต้องการให้เพื่อนของเธอปลอดภัย เพราะ CP9 มีอำนาจในการเรียก"บัสเตอร์คอล"ที่ร้ายกาจ การผจญภัยครั้งต่อไปจึงเป็นการติดตามCP9 ไป เพื่อช่วยเหลือโรบินให้กลับมาเป็นหนึ่งในกลุ่มหมวกฟางอีกครั้ง ทำให้ค้นพบความจริงว่า เธอเป็นคนเดียวที่หลงเหลือจากเกาะฮาโอร่า จากคำสั่งบัตเตอร์คอสได้ ซึ่งจากเหตุการณืในครั้งนั้น ทำให้เธอสูญเสียทุกอย่างไป รัฐบาลโลกต้องการตัวเธออย่างมาก เพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถอ่านโพเนกลีฟ ที่จะนำไปสู่ประวัติศาสตร์ที่หายไป และอาวุธในตำนานได้ แม่ - นิโค โอลิเวีย (เป็นนักประวัติศาสตร์ที่สามารถอ่านโปเนกรีฟได้ ภายหลังที่ความลับนี้ถูกเปิดเผย หล่อนถูกรัฐบาลโลกไล่ล่า จนต้องกลับมาที่เกาะฮาโอร่า สุดท้ายก็ต้องตายไปพร้อมกับคนทั้งเกาะ ด้วยคำสั่งบัตเตอร์คอส
 
 
 
 
 
                                                                            Franky
 
       แฟรงกี้ (หรือชื่อเดิม คาติ ฟูแลม) เป็นมนุษย์ไซบอร์ก แล้วเคยเป็นผู้ช่วยของทอม ผู้สร้างเรือผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งก็มีเพื่อนเป็นนายกเทศมนตรีของเกาะเมืองวอเตอร์เซเว่นซึ่งก็คือคุณไอซ์เบิร์ก มีนิสัยออกแนวบ้าบอ (เข้ากันได้ดีกับ ลูฟี่ อุซป ช็อปเปอร์) แต่แล้วแฟรงกี้ก็ช่วยต่อสู้กับรัฐบาลโลกหรือมีที่ชื่อหน่วยว่า cp9 โดยมีหัวหน้าหน่วยที่ว่าสแปนดัม ซึ่งในอดีตสแปนดัมได้สั่งลงโทษคุณทอมในข้อหาที่โจมตีเรือของรัฐบาลแต่ในความเป็นจริงสแปนดัมเป็นคนที่สั่งให้โจมตีเรือรัฐบาลโลกเอง ซึ่งก็ทำให้แฟรงกี้มีความแค้นกับสแปนดัมจนถึงปัจจุบัน แฟร้งกี้ ชอบลูฟี่มากจึงได้สร้างเรือให้กับลูฟี่ลำหนึ่ง ซึ่งเปรียบเหมือนเรือแห่งความฝันเเละได้ร่วมออกเดินทางไปกับพวกลูฟี่ด้วย
 
 
 
 
 
 
                                                                                    Brook
 
         บรู๊คปรากฏครั้งแรกในแกรนด์ไลน์ที่ “ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล” และเขาเคยเป็นพวกพ้องของกลุ่มโจรสลัดรุมบะและมีกัปตันโจรสลัดหมวกแก็บ ซึ่งเป็นกลุ่มของนักดนตรีมารวมตัวกันและล่องเรือไปตามแกรนดไลน์จากทะเลเวสท์บลูมามากกว่า50ปีแล้วและได้ถูกตามโดย ลาบูน ซึ่งเป็นปลาวาฬและเป็นปลาวาฬที่ติดใจอาโฟรของบรู๊ค บรู๊คสัญญาว่าเมื่อไปล่องเรือที่แกรนด์ไลน์แล้ว เขาจะต้องกลับไปเจอลาบูนแน่ๆ หลังจากที่ได้ไปที่ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล กลุ่มโจรสลัดรัมบะถูกโจมตีจากศัตรูที่ไม่รู้จัก และเพราะเขากิน ผลโยมิ โยมิ โนมิ ซึ่งเป็นผลปีศาจชนิดหนึ่ง จึงทำให้ คืนชีพได้ หลังจากที่ได้ตายไปครั้งหนึ่งแล้ว วิญญาณของบรู๊คจึงถูกย้อนกลับมาที่แกรนด์ไลน์และเขาได้หลงทางเนื่องจากหมอกหนาของฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล หลังจากนั้น เขาก็เจอตัวของเขาซึ่งไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากโครงกระดูกและผมอาโฟรจึงได้เป็นโครงกระดูกที่เดินได้
ภายหลังเหตการณ์ที่โกสต์ ไอส์แลนด์ ทริลเลอร์ บาร์ค พวกลูฟี่สามารถปราบ เก็กโค โมเลีย หนึ่งใน "เจ็ดเทพโจรสลัด" ลงได้ ทำให้บรู๊คได้เงากลับคืนมาและได้ตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มกับพวกลูฟี่ เพราะเขาต้องการที่จะพบกับปลาวาฬลาบูน อีกครั้ง

 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น